Monday, April 25, 2011

คิ้วขมวดเพราะ......

เรื่องของเรื่องคือสงสัยว่าตัวเองนั้นขมวดคิ้วอ่อนๆเกือบตลอดเวลาหรือเปล่า รู้สึกอย่างนั้นเมื่อคืนก่อนนอนก็ลองสังเกตอาการของตัวเองดูก็รู้สึกว่ากำลังขมวดคิ้วอยู่ ทำไม เครียดอะไรมากไปป่าว ทำไงถึงจะหาย ใครรู้บอกด้วยครับ

Friday, April 22, 2011

ตกหลุมรัก

ดูรายการมาเมื่อคืน คำถามที่ว่า "คุณเคยตกหลุมรักไหม และ คิดว่าความรักจะยืนยาวตลอดไปป่าว" เมื่อทำการสำรวจแล้วพบว่าคนส่วนใหญ่เคยตกหลุมรักนะ ส่วนใหญ่มากกว่า1ครั้งด้วยโดยเฉพาะผู้ชาย และส่วนใหญ่คิดว่ามันไม่ยืดยาวหรอกนะ แต่บทสำรวจก็ไม่ได้บอกว่ากลุ่มตัวอย่างเป็นกลุ่มไหนบ้าง ก็คงคละๆกันไปแหละอุตส่าห์ทำการสำรวจทั้งทีคงไม่ทำแบบรวกๆแน่ ในความคิดนะก็เหมือนกับคนส่วนใหญ่แหละ ตกหลุมรักกับรักแรกพบไม่เหมือนกันนะ และความคิดที่ว่าจะสามารถยืดยาวไปได้นั้นคงไม่มีทางเป็นไปได้และไม่คาดหวัง เช่นกัน แม้กระทั่งทุกวันนี้ก็ตามปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่มันควรจะเป็น ทำให้ดีก็แล้วกัน ด้วยความรู้สึกที่ว่าเราอยู่กับใครก็ยากทั้งนั้นแหละ ใครเค้าจะรับเราได้ตลอดหรือเราจะรับใครได้ตลอด เรื่องอนาคตอะไรจะเกิดก็ต้องเกิดเนอะ

เธอยัง.......

เพลงนี้ได้ดูครั้งแรกน้ำตาซึม ดูครั้งที่2น้ำตาไหล สงสัยว่าตัวเองเป็นอะไร มีประสบการณ์ร่วมหรือก็เปล่าแล้วทำไม คำตอบที่ได้ก็คือ มันอินไง ความรู้สึกของคนที่ห่างกันและก็ไม่แน่ใจ ไม่อยากให้เกิดขึ้น ไม่อยากจะคิด มันคงจะแย่มากทีเดียว  แต่ที่อยากพูดคือวันนี้คิดอะไรได้สองอย่าง เพื่อนคนนึงโทรมาบอกว่าจะแต่งงานแล้ว ว่างป่าวอยากให้มา โทรตามเพื่อนทุกคนที่หาเบอร์โทรได้ตั้งแต่สมัยอนุบาล(อนุบาลนี่หมายถึงชั้น เรียนหรือสถานที่นะเพราะเราเคยเรียนประถมด้วยกันที่โรงเรียนอนุบาลราชบุรี ส่วนตอนอยู่ชั้นอนุบาลอยู่ห้องเดียวกันป่าวไม่แน่ใจแล้วแฮะ) หลังจากจบประถมก็ต่อมัธยมต้นที่เดียวกันแต่คนละห้อง หลังจากนั้นก็ไปกันคนละทางแต่ก็ยังได้เจอหน้ากันบ้างเพราะมันเรียนมัธยมปลาย ห้องเดียวกับน้องชาย รู้สึกดีนะเพื่อนนึกถึงมันเลยไปพ้องกับเพลงว่ายังคิดถึงกันหรือเปล่า ยังคงดูรูปถ่ายในวันเก่าๆอยู่ไหม รู้สึกดีทีเดียว ส่วนอีกเรื่องนึงนึกถึงแล้วตลกดี นึกถึงผู้หญิงคนหนึ่งที่เคยบอกเค้าว่า ต่อไปในอนาคตไม่ว่าจะเกิดอะไรถ้าต้องการฉัน ฉันจะทิ้งผู้หญิงทุกคนเพื่อเธอนะ ฟังดูแมนชมัด เวลาผ่านมาเนิ่นนาน10กว่าปี เราจะทำแบบนั้นได้จริงๆหรือ คำตอบคือ"ไม่ได้" สมัยยังเด็กก็พูดได้ พอตอนโตมันก็อีกเรื่องนึงเนอะ ตลกดีตอนนั้นคิดได้ไงบางคนอาจทำได้แต่ฉันน่ะหรือทำไม่ได้หรอก ถ้าอยู่คนเดียวก็คงได้มั้ง แต่ตอนนี้ไม่ใช่ คนเราถ้าคบกันได้ก็คงคบกันเรื่อยมาตั้งแต่ั้นั้น แต่ตอนนี้ก็เพื่อนกันก็ดีแล้วว่ามะครับ

The Note Book

the-notebook-poster1.jpg
อาทิตย์นี้ดูมา 3 เรื่องรวม Big Cinema ด้วย Taken นั้น โค-ตระ มันสะใจ  แต่อยากพูดถึงเรื่องหลังสุดที่ดูมากกว่า The Notebook (ระวังผู้อ่านอาจเจอการสปอยล์นิดหน่อยแต่เป็นหนังเก่าคงดูกันมาแล้วซิ นะ)เป็นหนังรักที่เนื้อหาความรักระหว่างโนอาร์ กับอัลลีย์ ตั้งแต่วัยรุ่น จวบจนวันสุดท้ายของชีวิต ไม่มีอะไรแปลกใหม่ มีการกีดกัน ชนชั้น พบเจอและพลัดพราก แต่ทำไมหนอหนังถึงได้ออกมาซาบซึ้ง และเศร้าประทับใจ แบบนี้ ดูจบน้ำตาหยดแหมะ พูดอะไรไม่ออก(เป็นผู้ชายอ่อนไหวแบบหนุ่มเกาหลี:D  ) หนังตัดสลับไปมาระหว่างแรกเริ่มของความรักกับช่วงสุดท้าย ดูจบนึกถึงเรื่อง Away From Her แต่เรื่องหลังนี้จะพูดถึงช่วงเวลาที่ เมื่อภรรยาป่วยและลืมสามี แถมยังไปหลงรักคนใหม่ ความเจ็บปวดของสามีจะเป็นเช่นไร ที่ต้องเฝ้ามองการเปลี่ยนไปของภรรยาที่เคยรักกันมายาวนาน
อยากเสียน้ำตาเพิ่มดู Away From Her ต่อ

Hang Over เมายกแก๊ง แฮงค์ยกก๊วน

hangover.jpg
แฮงค์โอเวอร์ เมายกแก๊ง แฮงค์ยกก๊วน
พึ่งจะได้ดูและก็"ฮาจัง วายป่วงสุดๆและสนุกสนานน่าติดตาม"  อยากพูดถึงเพราะเป็น หนังตลกที่ผมเองไม่ ไค่อยได้ดูนักเพราะดูแล้วไม่ค่อยตลกหรือไม่ก็รู้สึกเบื่อกับตลกสัปดล ซึ่งไม่ใช่ว่าผมไม่สัปดลนะครับ ยังไงผู้ชายก็ต้องมีกันบ้าง แต่เรื่องนี้มีแกนเรื่องที่ค่อนข้างแข็งแรงและน่าติดตาม เหมือนกับเป็นหนังสืบสวนที่เมื่อตามเบาะแสไปเรื่อยๆจะได้พบว่า ทำไมพวกนี้ถึงได้เมาหลุดโลกขนาดนี้ แถมยังต้องแข่งกับเวลาเพื่อให้ว่าที่เจ้าบ่าวได้กลับไปทันงาน แต่ง  ถึงแม้ ว่าจะมีตลกเจ็บตัว(ซึ่งบางคนอาจไม่ชอบ)บ้าง แต่ก็ดูบ้านๆดีนะไม่ต้องล้อเลียน(ไม่รู้ล้อเลียนอะไรไม่ค่อยเก็ต)ไม่ต้องแอบ เหน็บแนม จิกกัดสังคม หรือทะลึ่ง(แบบโซฮานไม่ชอบเลยแฮะ) สรุปได้ว่าเป็นหนังตลกที่ชอบหลังจากเรื่องล่าสุดที่ชอบคือ The 40 years old vergin หรือว่าผมจะดูหนังน้อยไป ใครมีเรื่องอื่นแนะนำเลยครับ

ทางกลับบ้าน



หลังจากได้ฟังเพลงนี้ ครั้งแรกน้ำตาก็เอ่อออกมาเล็กน้อย สิ่งแรกที่คิดคือพ่อและแม่นั่นเอง ครั้งหนึ่งในชีวิตที่เคยสุดๆ ท้อแท้กับเรื่องราวต่างๆ แต่นั่งนึกดูแล้วมันก็แค่เรื่องเล็กน้อยที่เกือบทุกครต้องก้าวข้ามผ่านมา หนักบ้างเบาบ้าง ด้วยอายุที่ยังน้อยทำให้ตอนนั้นแทบไร้เรี่ยวแรงที่จะเดินต่อ สิ่งที่นึกได้ บ้าน...พ่อ...แม่.....  การเดินทางกลับบ้านต่างจังหวัดที่ถึงแม้ไม่ไกลแต่มีคุณค่ามากมาย ค้างแค่คืนเดียว นั่งกินข้าวด้วยกัน นั่งคุยกันเล็กน้อย ตามประสา ไม่ได้เล่าให้ฟังด้วยซ้ำว่ารู้สึกยังไง ไม่ไหวอย่างไร แต่แค่ได้อยู่ด้วยกันก็รู้แล้ว ฮึดเพื่อเค้าสักหน่อย อยากให้เค้าภูมิใจ ยังไงสุดท้ายเราก็ยังมีครอบครัว นะ
       เพลงนี้เพราะจริงๆฟังแล้วตรงกับประสบการณ์อยากให้คนที่กำลังหมดกำลังใจได้มี แรงเดินหน้าต่อไปหลังจากได้ชาร์จพลังจากบ้านเรียบร้อยแล้ว

ถ้าคนที่คุณรักกำลังจะจากไปคุณจะทำอย่างไร

เรื่องนี้เกิดขึ้นกับตัวเอง ย่าเป็นมะเร็งปอดหลังจากที่หายจากวัณโรค  ตอนเด็กๆยายเป็นคนเลี้ยงมาจนกระทั่งเริ่มรู้ความก็คงประมาณป.3-4 มั้ง ย่าก็ย้ายมาอยู่ด้วยกันจนกระทั่งย้ายออกมาทำงานก็ไม่ค่อยได้กลับไปอีก ก่อนหน้านี้ก็มาเรียนที่กรุงเทพ 10 กว่าปีแล้วมั้งตั้งแต่ออกมาเรียนไม่ค่อยได้อยู่บ้านถึงอยู่บ้านก็ไม่ค่อยได้ ใกล้ชิดย่า จริงๆ็คงเป็นทุกคนพอเริ่มวัยรุ่นด้วยการที่พ่อกะแม่ต้องทำงานไม่ค่อยได้อยู่ บ้าน ดังนั้นที่บ้านจึงมีย่าอยู่ แต่เราวัยรุ่นก็ไปกับเพื่อนเสมอๆ คุยกันไม่เยอะ แต่เราไม่ทะเลาะกับย่าหรือเคยทำตัวงี่เง่าเลย ย่าก็ใจดีเสมอมา จนมาเมื่อ 2-3ปีก่อนย่าเป็นวัณโรค ย่ากังวลและซูบผอมไปมาก ทุกครั้งที่กลับซึ่งตั้งใจไว้ว่าจะกลับบ้านให้บ่อยขึ้นไปคุยกะย่านิดหน่อยก็ ยังดี แต่ก็ไม่ได้ทำดังที่ตั้งใจไว้ แต่เจอย่าทุกครั้งย่าก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ย่ามีกำลังใจที่ดีนะจากเคยวิตกก็กลับมาดีขึ้นจนเกือบเป็นย่าคนเดิมหลังจาก ที่กลับบ้านล่าสุดประมาณ 2 อาทิตย์มาแล้ว ก็ถามย่าว่าเป็นไงบ้างหายดีแล้วหรอดูย่าแข็งแรงขึ้นเยอะเลยนะ  ย่าก็ตอบว่าก็ดีขึ้นแล้วคงจะหายแล้วหมอนัดไปตรวจดูอีกที เราก็สบายใจ เบาใจไปเยอะ
     วันนี้น้องโทรมาแต่เราไม่ได้รับเมื่อโทรกลับไปก็พบข่าวร้าย ย่าเป็นมะเร็งปอด เป็นได้ประมาณ 6 เดือนแล้ว น้องบอกว่าหมอบอกไม่ควรรักษาแล้วเนื่องจากแกอายุมาก 80 แล้วมั้ง ครั้นจะทำคีโมก็คงจะรับไม่ไหวจะผ่าตัดก็ไม่ไหวอีก เราก็ไม่ใช่คนที่วิเคราะห์ได้ แต่หมอควรพูดแบบนี้หรอ พึ่งจะ 6 เดือนเองนะมันต้องมีวิธีน่า 30 บาทรักษาได้ไหมนะ แต่เท่าที่รู้พ่อกับอา อาจะคุยกันเรื่องนี้ว่าจะไม่รักษาและไม่บอกย่าด้วย เราก็เข้าใจอ่ะนะหมอก็บอกแล้ว แต่การเยื้อไว้ให้นานที่สุดก็น่าจะดีกว่านะ โอเคเราไม่มีเงินเยอะขนาดนั้น แต่ถ้ารักาษาฟรีได้เราก็ควรจะทำนะ ใจจริงอยากยื้อไว้เพราะย่าก็คงไม่อยากตายหรอกนะ แต่ถ้าย่ารู้ย่าคง.........  อะไรคือสิ่งที่ดีที่สุดนะ ความตายมันก็ต้องมาหาเราสักวันนั่นแหละ แต่เราอยากให้คนที่เรารักจากไปอย่างนั้นหรอ จากไปง่ายๆ แบบที่เราต้องพยายามทำอะไรนอกจากทำใจอย่างนั้น หรอ
    วันนี้รับไม่ไหวจริงๆ ไม่เคยคิดถึงคนใกล้ชิดกันว่าเมื่อวันที่เค้าจากไปเราจะเป็นอย่างไร ไม่เคยคิดเลยจนกระทั่งวันนี้ ถ้ามีใครจากไปอย่างกระทันหัน เราจะเป็นอย่างไรนะ

Updat:ล่าสุด ย่ายังแข็งแรงดีดีใจที่สุดเลย

ฝันโคตรๆ

        
           หลังจากได้ดู ฝันโคตรโคตร รอบแรกและรอบเดียวก่อนมาเขียน ความรู้สึกแรก งง งง และงง ไม่อาจสรุปได้ว่าอันไหนจริง อันไหนฝัน ใครฝัน หนังอะไรกันนี่ ไม่กล้าดู Mulholland Dr. เลยเพราะได้ข่าวว่าคล้ายๆกัน ได้ตามอ่านดู blog หรือคำวิจารณ์สำหรับหนังเรื่องนี้เพื่อหาข้อสรุป เพื่อให้ดูได้รู้เรื่องขึ้น ยอมรับว่าไม่ใช่คนดูหนังเก่ง แปลความหมาย พบนัยได้ดี เป็นคนดูแบบธรรมดามากกว่า ยอมรับว่าดูหนังของคุณ เจ้ย ไม่ว่า สัตว์ประหลาด หรือแสงศตวรรษ ไม่รู้เรื่องก็ตาม แต่ก็ดูอยู่

          กลับมาฝันโคตรโคตร อ่านไปอ่านมาพบว่ามีหลากหลายการตีความ บางส่วนไปทางเดียวกัน บางส่วนก็หลากหลายความคิดเห็น ส่วนตัวกลับยังไม่พบว่ามีใครคิดเหมือนกับผู้เขียนเลย  เอาหนังกลับมาลองเรียบเรียงใหม่ แบ่งแยกเป็นช่วงที่คิดว่าน่าจะเป็นฝัน(ส่วนตัวคิดว่าเป็นอนาคต) และความจริง ตัดเอาส่วนที่ไม่จำเป็นออกเช่น ฉากโชว์ของทั้งหลาย โชว์สภาวะจิตใจด่าง ฉากร้านนาฬิกา จากนั้นเอามาต่อกันใหม่ พบว่าแต่ละส่วนก็เป็นไปลำดับเวลา จากที่ดูครั้งแรกคิดว่าไม่เรียงตามลำดับเวลา

          สมมุติว่าด่างอุปการะเปิ้ล เมื่อเปิ้ลโต กลับมาตามหาคนอุปการะ(ด่าง) ทั้งสองคนรักกันแต่ด่างกลับเป็นคนไม่เอาไหน มีปมด้อย หน้าตาก็ไม่ดี ในสภาพปกติกลับดูขี้แพ้ ไม่แสดงออก แต่เมื่อต้องแสดง(แต่งหน้าหรือใส่หน้ากาก)กลับไม่เขอะเขินในการโชว์ ด่างอยากประสบความสำเร็จ อยากดัง แต่ก็ได้แต่คิดไปวันๆจมอยู่กับอดีต ไม่มีเงินและไม่มีงานจนบ้านถูกยึด ท้าให้เปิ้ลลาออกจากวงการ ปรากฏว่าเปิ้ลลาออกจริงๆ เมื่อบ้านถูกยึดรวมทั้งลมหายใจสุดท้ายของภรรยาเก่าได้จากไป ด่างกลับมานั่งเขียนบทหนังเรื่องโคตรรักเองเลยจนสำเร็จ พยายามเอาไปเสนอ กว่าจะสำเร็จได้เป็นผู้กำกับ หนังได้ฉาย ซึ่งก็ถือได้ว่าด่างประสบความสำเร็จในโลกแห่งความจริงไปแล้ว ด่างกลับไปหาเปิ้ลและได้แต่งงานอยู่ด้วยกัน

          หลังจากนี้เอาช่วงที่เป็นความฝันมาเรียงต่อ ซึ่งมันอาจเป็นอนาคตของคนคู่นี้ เพราะไม่มีนักข่าวมาสัมภาษณ์เปิ้ลอีกเลย เปิ้ลกลายมาเป็นแม่บ้าน ส่วนด่างก็กลายเป็นผู้กำกับและสนใจเปิ้ลน้อยลงลุ่มหลงไปกับความโด่งดัง จนเมื่อพบเอกสารว่าเปิ้ลคือเด็กที่ด่างเคยอุปการะไว้(ซึ่งเคยเห็นมาแล้ว ในส่วนของความจริง) สังเกตได้ว่าตุ๊กตาปลาโลมาถูกเป่าลมจนเต็มเพราะเปิ้ลเคยเป่าไว้ในช่วงความ จริง กลับมาพบบทหนังที่ตัวเองเคยเขียน ดูหนังโคตรรักเองเลย และเรื่องก็จบลง ส่วนต่อจากนี้ผู้เขียนคิดเอาเองต่อว่า ด่างค้นพบว่ากว่าที่ตัวเองจะมีวันนี้ เคยผ่านอะไรมา(ส่วนอดีต-ช่วงแรก)ความรักสำคัญกับเค้าเพียงใด ใครเคยอยู่ข้างเค้าตั้งแต่วันที่เค้ายังไม่โด่งดัง ซึ่งก็คงจะจบ ลง

          ใครฝันกันแน่ อะไรจริง อะไรฝัน ผู้เขียนคิดว่า ช่วงแรก(อดีต)นั้นด่างฝันที่จะประสบความสำเร็จ  ส่วนช่วงหลัง(ปัจจุบัน)เปิ้ลฝันถึงอดีตอันแสนหวาน ด่างผู้แสนดีไม่มีอี โก้

          ชอบและไม่ชอบหนังเรื่องนี้นะ คิดว่าบางส่วนมาไป บางส่วนน้อยไป เห็นด้วยกับหลายๆความเห็นที่ว่าผู้กำกับโชว์ตัวเองมากไปหน่อย จะโชว์สัดส่วนทำไม โชว์การแสดงสตรีตโชว์ ว่าเค้าเก่งนะถึงแม้มันจะมีความหมายก็ตาม หนังเรื่องนี้คงจะส่วนตัวมากอ่ะนะไม่ว่ากัน ส่วนที่น้อยไปคือส่วนของเปิ้ล น่ารักอย่างงี้กลับได้แสดงน้อยไป เรื่องหน้าเอาเธอมาเล่นอีก นะ

         การลำดับเรื่องดูเหมือนเอาอดีตกับปัจจุบันมาสลับไปสลับมา ดูแ้ล้วเหมือนฝันกันไปมาตามชื่อเรื่องทำให้เกิดการตีความได้หลากหลาย ยอมรับว่าฉลาดเอาการทีเดียว โชว์การเล่าเรื่องที่หาได้ในหนังไทยค่อนข้างยาก และคงบ้าโคตรโคตรทีเดียวที่ทำหนังแบบนี้ออกมา และคงต้องฝันโคตรโคตรที่จะได้ทำหนังแบบนี้ออกมาอีกเพราะเท่าที่รู้ถึงจะเป็น หนังที่ดีทีเดียวจากมาตรฐานหนังไทยตอนนี้ แต่รายได้ก็ไม่ดีเท่า ไหร่

        จะกลับไปดูอีกรอบหลังการเรียงใหม่และอาจมาแก้ไขบทความอีกครั้ง แต่ถ้าทุกอย่างเป็นไปอย่างที่คิดแล้วล่ะก็ อดีตก็ไม่ได้ไร้ความหมาย มันคือราก ที่มาที่ไปของคนแต่ละคน ซึ่งคงช่วยให้อนาคตไม่ผิดพลาดอีก สำหรับชีวิตคู่เมื่อเดินทางมาถึงจุดยากลำบาก หันกลับไปมองอดีตคงทำให้ผ่านช่วงร้ายๆไปได้