Sunday, May 22, 2011

Pirates of the caribbean-On the stranger tides

หนังฮิตภาคต่อที่มีคนติดตามรอชมรวมทั้งผมด้วย ผู้กำกับเปลี่ยนจาก กอร์ วอร์บินสกี้ มาเป็น ร็อบ มาแชล ความรู้สึกภาค2-3 ไม่ชอบเท่าไหร่ ยังไงภาคแรกสนุกที่สุด ภาคต่อๆมาความสนุกมันลดลง แต่ความตลกเพิ่มเข้ามา กัปตันดูเลอะไปหน่อย  กับภาค4ยังไงก็ดูครับ ว่ากันที่ตัวหลักก่อน จอห์นนี เดปป์ เหมาะสมที่สุดกับบทนี้ เปลี่ยนคนเมื่อไหร่เป็นอันจบกัน คาแรคเตอร์ภาคนี้กลับมาเป็นแบบภาคแรกรวมทั้งเนื่อเรื่องด้วย ว่ากันที่ตัวหนังความสนุกและความมันส์ดีทีเดียว ผมขอแยกกันนะครับ ภาคนี้ความสนุก การดำเนินเรื่องก็ไม่ได้รู้สึกว่ายืดยาด  สนุกสนานในเนื้อเรื่อง มุขที่ใส่เข้ามา ไม่เลอะเทอะครับ ความมันส์ใส่เข้ามาแบบต่อเนื่อง สำหรับผมมันอาจจะเยอะไปหน่อย ต้องบอกว่าชอบภาคล่าสุดมากกว่า2ภาคที่ผ่านมาหรือบอกได้ว่า กัปตันแจ๊ค คืนฟอร์มครับ

Tuesday, May 17, 2011

วิธีถอด Password สำหรับ Siemens S7-300

ซื้อเครื่องจักรมาใหม่จากไต้หวันครับ แน่นอนว่าใช้ PLC Siemens S7-300 ซึ่งมีเมโมรีการ์ดเสียบอยู่ที่ CPU Unit ดูๆก็น่าจะเป็น SDหรือ MMC Card นี่แหละครับแต่ความจุนี่สิ มันน้อยแบบแปลกๆ รู้สึกจะแค่ 32หรือ64 MB ซึ่งถือว่าน้อยมากๆเมื่อเทียบกับขนาดที่มีขายในท้องตลาดบ้านเรา  ลองเอาสายแบบ USB-MPI ไปเสียบจะอัพโหลดโปรแกรมขึ้นมาปรากฎว่าติดรหัสผ่าน  ว่าแล้วเค้าคงต้องใส่มา ลองหาทางเนตดู กูเกิลช่วยได้จริงๆครับ  มาดูสิ่งที่ต้องเตรียมครับ โปรแกรม2 ตัวตามนี้เลยครับ
http://www.mediafire.com/?9ajge54e0elt53p  สำหรับทำอิมเมจไฟล์
http://www.mediafire.com/?rdv127qzzvxmhd7  สำหรับแกะรหัส
เริ่มกันเลยครับ
1. เริ่มจากปิดเครื่องก่อนครับแล้วดึงเอาเมโมรีการ์ดออกมา เสียบเข้ากับการ์ด รีดเดอร์ทั่วไป จากนั้นใช้โปรแกรม S7ImgRD.exe เพื่อทำอิมเมจไฟล์ครับ จากการ์ดครับ แล้วเซฟไว้

2.หลังจากเซฟแล้วมาเปิดด้วยโปรแกรม Unlock_and_converter_MMC_Image_S7.exe ครับ โดยไปที่ Open>ไฟล์อิมเมจที่ทำไว้ จากนั้นที่เมนูบาร์จะมีPassword ขึ้นให้เลือกเป็น S7-300 รอแป๊ปใหญ่ๆครับ จะได้รหัสออกมา เป็นอันเสร็จ
3.ผลลัพธ์ครับ ใช้ได้จริงๆ แต่ค่า Customer Recipe หายหมด เข้าใจว่าน่าจะมาจากการที่ปรับไปยังโหมด Stop ก่อน แล้วดึงเมโมรีออกมา โดยที่ยังไม่ได้ตัดไฟ  ดังนั้นใครเอาไปทำก็ให้ระวังเอาไว้ครับ มาโทษกันไม่ได้นะครับ ผมก็เสี่ยงเอาจากที่ฝรั่งเค้าเขียนบอกมา พบปัญหาแค่นี้ครับ ที่เหลือเครื่องทำงานได้ปกติ
4.การต่อยอด ถ้าไม่แกะรหัส ก็สามารถเตรียมฮาร์ดแวร์แบบเดียวกันไว้ เดินสายอะไรต่างๆให้ครบ จากนั้นหาโปรแกรม S7ImgWR.exe เอาไว้ เพื่อทำการเขียนอิมเมจไฟล์ลงเมโมรี อีกใบเพื่อนำไปใส่เครื่องอื่นได้หรือจะสำรองไว้ก้แล้วแต่จุดประสงค์ครับ  ทีนี้ว่ากันด้วยเรื่องการ์ดของ Siemens ก็หาซื้อแบบเดียวกัน รุ่นเดียวกันมา หรือ สามารถเอาการ์ดที่มีขายกันมาใช้ได้แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะได้ทุกแบบ ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ ครับ ลองหาอ่านเพิ่มเติมดู แต่ถ้าได้เครื่องจักรเพิ่มขึ้นมาอีกเครื่องโดยทำฮาร์ดแวร์เอง ก็คงจะประหยัดไปได้ไม่มากก็น้อยล่ะครับ แค่การ์ดซื้อเถอะครับ
    ใครเอาไปลองแล้วยังไงก็มาบอกกันได้นะครับ หรือจะปรึกษากันก็ได้ครับ]ลืมบอกไปว่า S7-200ก็ทำได้เหมือนกัน แต่ไม่เคยลองเหมือนกันเพราะไม่มีให้ลอง
http://www.mediafire.com/?s0khoc6xtlifi3o

Friday, May 13, 2011

Road To Kasem Island (3/3)

วันสุดท้ายแล้วครับตั้งใจตื่นมาตอนเช้าตรู่เพื่อถ่ายวิวตอนเช้า   ตั้งนาฬิกาปลุกแถมนอนเร็วอีกต่างหาก สิ่งที่ได้คุ้มครับ อากาศไม่ร้อน พระอาทิตย์พึ่งจะขึ้นสู่ขอบฟ้า แสงรำไร สวยครับ เลยถ่ายรูปมาพอสมควร ดูวิวแบบพาโนรามากันดีกว่า(ใช้โปรแกรมทำนะครับ ถ่ายเป็นช็อตแล้วนำมาต่อกัน)  ส่วนรูปอื่นๆก็ถ่ายแบบปกติ





เสร็จแล้วนอนต่อซะงั้น ก็นอนไม่ค่อยหลับครับ ได้ประมาณชั่วโมงกว่าก็ลุกขึ้นมากินอาหารเช้า รอเวลาเก็บของกลับบ้าน  วันนี้นัดคนไว้ครับ  พี่กิตเจ้าถิ่นที่จะกินข้าวเที่ยงด้วยกัน  ใกล้เที่ยงแล้วกำลังจะไปเช็คเอาท์พี่กิตโทรมาบอกว่ามาคอยแล้ว มาตั้งแต่11โมงครึ่ง เลยต้องรีบเช็คเอาท์เคลียร์ค่าอาหารทั้ง2วันที่ผ่านมา เบ็ดเสร็จประมาณ 700 เอง ถูกจัง ให้พนักงานทวนดูอีกที ไม่ตกไม่หล่นนะ  เตรียมให้เป็นพัน แบบนี้ต้องมาอีกซะแล้ว  กินมันในนี้แหละถูกดี  ข้ามเรือกลับมาเจอพี่กิตขับรถพาไปกินร้าน ปลาเผาเขาตอง  เป็นปลาช่อนเผา ชื่อดังของเมืองกาญจน์ เดินเข้าไปในร้านเกือบทุกโต๊ะจะต้องสั่งปลาช่อนเผามากินกัน  เป็นนิมิตรหมายที่ดีแปลว่าน่าจะอร่อยและมันตัวโตมาก  นึกว่ามานั่งกินไดโนเสาร์เพราะใหญ่เหลือเกิน
กลัวคาวเหมือนกันนะ  แต่ว่าอร่อยเนื้อหวานและไม่คาวแถมไม่แพงด้วย  บังเอิญนั่งอยู่ในเหลี่ยมที่เห็นเค้าช้อนปลามาจากถัง กำลังดิ้นเลย โดนไม้ทุบก็สลบหรือตายไม่แน่ใจ จากนั้นถูกนำไปเสียบไม้เอาปิ๊บคลุม เอาฟางมาสุ่มแล้วก็เผา  พอฟางไหม้จนหมดทิ้งไว้พักนึงก้เอาปลาออกมา นำเข้าครัวออกมาก็อยู่บนจานแบบในรูปนี่แหละ หลังจากนั้นก็นั่งรถทัวร์กลับเป็นอันจบทริป

Wednesday, May 11, 2011

ผู้หญิงไม่ชอบอะไรเกี่ยวกับแฟนเก่ามากที่สุด

จากรายการคนละดาวเดียวกันเหมือนเดิมครับ  คำถามสัปดาห์นี้สาเหตุของผลลัพธ์นี่ทำให้ขำๆและอึ้งบวกน่ากลัวไปเลย   คำถามที่ว่าผู้หญิงไม่ชอบอะไรเกี่ยวกับแฟนเก่ามากที่สุด
ก.รูปถ่าย    ข.เบอร์โทร   ค.smsหวานๆ   ง.ของแทนใจ
ผมทายว่า smsหวานๆเพราะน่าจะแปลว่ามีอะไรลึกๆป่าว สำหรับผมแฟนเก่าก็คือแฟนเก่า ความทรงจำคือความทรงจำ ในด้านความรักไม่มีความทรงจำที่เลวร้ายเป็นพิเศษ  อกหักก็เรื่องธรรมดานี่นา ถือว่าเป็นความทรงจำที่ดีที่ควรจดจำไว้  ส่วนเบอร์โทรมีไว้ก็ไม่แปลกเลิกกันก็เป็นเพื่อนกันได้  คุณล่ะทายข้อไหน
เฉลย  รูปถ่าย......     เหตุผลคือผู้หญิงนั้นจะจินตนาการข้ามการเวลา   คำนี้ทำให้ขำมากและก็น่ากลัวในเวลาเดียวกัน  โอ้โฮ  อะไรจะจินตนาการไปได้ทั้งอดีตและอนาคตขนาดนั้น  หมอบอกว่าผู้หญิงจะจินตนาการและเริ่มเปรียบเทียบตัวเองกับคนในรูปบ้าง อะไรบ้างไปต่างๆนานา เช่น ใช่ซิฉันไม่ได้ไว้ผมทรงนั้นนิเธอถึงได้ไม่ค่อยชอบทรงผมฉันเท่าไหร่ เธอถึงไม่เคยชมฉันเลยว่าสวย  เป็นไงล่ะครับเป็นตุเป็นตะกันเลย  เพศหญิงนี่นอกจากเข้าใจยากแล้วยังมีจินตนาการสูงส่งอีกด้วย  ขำๆนะครับอย่าคิดมาก ลองสังเกตคนรักคุณดีกว่าว่าจะไม่ชอบอะไรมากที่สุด

Monday, May 9, 2011

Road To Kasem Island Resort(2/3)

เช้าวันที่สองตื่นขึ้นในตอนเช้าตรู่แง้มม่านออกประมาณ6โมงกว่าๆ  ว้าวสวยจังเลยมีหมอกหน่อยๆ ท่าทางสดชื่นมากแต่ก็ยังง่วงมากเช่นกันเลยนอนต่อ ตื่นมาอีกทีประมาณ9โมงกว่า ล้างหน้าแปรงฟันแต่งตัวถือกล้องออกไปด้วยกินอาหารเช้า(รวมอยู่ในค่าห้อง)ก่อนแล้วค่อยเดินถ่ายรูปรอบเกาะอีกที  บรรยากาศไม่ร้อนมากเนื่องจากพระอาทิตย์ขึ้นทางหน้าระเบียงห้องนอน  ส่วนโซนทานอาหารจะได้บรรยากาศพระอาทิตย์ตก  จากโพสแรกบอกว่าจะมีเซอร์ไพรซ์ก็ตอนเช้านี่แหละ เดินมาถึงพนักงานบอก จัดโต๊ะไว้ให้แล้วก็งงนะ ปรากฎว่าเค้าจัดโต๊ะวางจาน มีด ส้อม ไว้โตีะเดิมที่เรานั่งเมื่อวานเหมือนจะจำว่าเราชอบนั่งตรงไหน ถ้าจำรายละเอียดแบบนี้ก็ถือว่าใส่ใจแขกมากๆประทับใจอ่ะ ดูบรรยากาศตอนเช้ากันก่อน
นั่งกันสบายๆเนื่องจากมีแขกอีกแค่โต๊ะเดียวรวมกันเป็นสองโต๊ะ  อาหารเช้าจัดมาเป็นเซตให้เลือกประมาณ4เซต ชุดแรกเป็นABF ให้เลือกเป็น กาแฟ ขนมปังปิ้ง น้ำส้ม ไข่ดาว-ไข่คน-ไข่ม้วน  ไส่กรอก-แฮม   อีกเซตนึงเปลี่ยนจากไข่-ไส้กรอกแฮม เป็น แพนเค๊ก   เซตที่3 เป็นคอร์นเฟลค เซตที่4 เป็นข้าวต้ม   ก็โอเคกับอาหารเช้านะไม่ได้มีเลือกหลากหลายหรือเริ่ดหรูอันใดแต่ก็พอเพียงกับความต้องการ ติกาแฟนิดนึง กาแฟน่าจะแก่กว่านี้และดีกว่านี้ เป็นคนชอบกาแฟแก่ๆหน่อย เลยยังไม่เต็มที่  เลยตกลงใจว่าวันนี้จะเดินเล่นเรียบถนนตามแม่น้ำไปเรื่อยๆ ผ่านวัดใต้ที่มีพิพิธภัณฑ์จากนั้นเดินผ่านร้านกาแฟที่หมายตาไว้เมื่อวาน หาอะไรกินตอนเที่ยงๆบ่ายๆ เดินไปประตูเมือง เสาหลักเมือง จากนั้นเจออะไรอยากแวะก็แวะไปเรื่อย  ก่อนอื่นหลังจัดการอาหารเช้าแล้ว ถ่ายรูปก่อน(อีกแล้ว)













มีกระต่ายด้วยนะเออเค้าเลี้ยงแบบปล่อยเลยแหละ เห็นตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว สงสัยเหมือนกันว่าจะมีมูลมันไหม เพราะเคยเลี้ยงกระต่ายจะมีมูลเยอะเหมือนกัน แต่เดินไปเดินมาก็ไม่ยังเจอนะดีจริงๆจะได้ไม่ต้องคอยระวัง มีนกด้วยไม่รู้มันพูดไรภาษาคนนี่แหละแต่ฟังไม่ออก  บนเกาะก็ร่มรื่นดีถึงแม้จะไม่เลี่ยมเพราะรกอยู่บ้างแต่พนักงานไม่เยอะจะทำทั้งหมดก็คงลำบากอยู่  สภาพห้องแต่ละแบบก็จัดว่าโอเคไม่หรู ไม่ใหม่ แต่ก็อยู่ได้นะ ถ้ามีการซ่อมบำรุงที่ดีกว่านี้จะแจ่มมากๆ สระน้ำครับ ด้านล่างดเหลืองๆไม่น่าเล่นดูเหมือนไม่ค่อยทำความสะอาด แต่เมื่อคืนลองเดินดูรู้สึกเค้าไม่ได้เปิดปั๊มให้น้ำวนเข้าออกสระนะ  แต่เหมือนเค้าสังเกตเห็นเราทำท่าจะเล่นก็มีการเปิดปั๊ม  แต่สรุปสภาพสระไม่น่าเล่นก็ไม่ได้เล่น
อ้อยอิ่งไปมาจนเกือบ10โมครึ่งมั้งถึงได้ออกเดินทาง  ให้เรือออกไปส่งที่ฝั่ง เดินไปเรื่อยๆแป๊บเดียวก็ถึงวัดใต้ที่มีพิพิธภัณฑ์เสียค่าเข้าชมคนละ10บาท ถูกหรือเปล่าไม่แน่ใจ  เคยมาครั้งนึงตอนทัศนศึกษาเมื่อนานมาแล้ว เข้าไปก็เจอแต่รูปเก่าๆ จากหนังสือพิมพ์บ้าง นิตยสารบ้าง อะไรบ้าง ก็มีแค่นั้นโดยทางเดินเป็นรูปตัว U ไม่ได้มีการบำรุงรักษากันเลย รูปโดนน้ำบ้าง แมลงกินบ้าง  แต่ก็10บาทนะ อยู่ได้พักนึงก็เดินออกมา เดินต่อไปเรื่อยๆ ไม่เหนื่อยเลยเพราะค่อยๆเดินและระยะทางก็ใกล้เสียด้วย
เริ่มเข้าูสู่่ตัวเมือง อาคารบ้านเรือนก็ยังดูเป็นทรงโบราณอยู่เยอะ อนุรักษ์กันไว้ได้ดีทีเดียว  ก่อนมาถึงร้านกาแฟที่หมายตากันไว้  เจอร้านก๋วยเตี๋ยวคนนั่งกันแน่นทีเดียว โน๊ตไว้เลยว่ากินกาแฟก่อนมื้อเที่ยงค่อยมากินคนเยอะแบบนี้ท่าจะอร่อย  เจอร้านกาแฟแล้วครับ





ร้านน่านั่งดีครับ ตกแต่งได้ดูดีชอบเลย มีดาราเคยมาแล้วก็หลายคนสังเกตได้จากรูปถ่ายต่างๆ นอกจากกาแฟแล้วก็ยังมีขายของที่ระลึก ของเล่นสังกะสี เสื้อ อะไรประมาณนี้ คนเยอะพอสมควรมีคนเข้ามาเรื่อยๆแต่ไม่ได้นั่งกินกาแฟกันเยอะ เลยมีที่ให้เราได้นั่งเรื่อยเปื่อยไป  ร้านกาแฟถ้ากาแฟไม่อร่อยก็จบกัน รสชาดกาแฟก็บอกตามตรงว่าพอได้อยู่ ราคาก็ไม่ได้แพงอะไร มีของหวานพวกเฉาก๊วย ขนมปังเย็น วาฟเฟิลด้วย นั่งเล่นเพลินๆได้อยู่ นั่งอยู่จนเกือบบ่ายโมงคิดว่าร้านก๊วยเตี๋ยวคนคงซาแล้ว ถามพนักงานร้านกาแฟได้ความว่าร้านก๊วยเตี๋ยวร้านนี้อร่อยมากๆ เส้นทำเอง ลูกชิ้นทำเอง ออกรายการมาเกือบทุกรายการแล้ว  เดินไปนั่งกินคนก็ไม่เยอะแล้วจริงๆแหละ สั่งบะหมี่ต้มยำมากิน  อืม...กินคำแรกก็รู้เลยว่าเส้นเหนียวหนึบกินเพลินดี ลูกชิ้นก็ดี  แต่โดยรวมคิดว่าน่าจะอร่อยมากกว่านี้ซะอีก ชอบก๋วยเตี๋ยวไข่ราชบุรีมากกว่า เดินออกจากร้านมาจุดหมายต่อไปคือ ประตูเมืองและเสาหลักเมืองโดยเดินย้อนกลับทางเก่า  เจอฝนซะได้เลยได้แค่เดินผ่านๆ


 จากนั้นเดินกลับโรงแรมเดินเรื่อยๆเปื่อยๆไป รอเวลาเย็นวันนี้ตั้งใจจะกินที่โรงแรมแหละ เห้นราคาแล้วนั่งกินได้สบายๆจะดูวิวตอนเย็นด้วย  แวะซื้อขนมมานั่งกินเ่ล่นนั่งอ่านการ์ตูนฟังเพลงที่ระเบียงที่เสียอย่างเดียว ลมจากแอร์มันพัดใส่นี่ซิ ทำให้ร้อนได้ต้องเอาผ้าแขวนกัยไม้แขวนเสื้อมาบังลมหน่อย  อากาศไม่ร้อนจะเกินไปนั่งเพลินๆก็เย็นละ 5โมงกว่า เดินไปเค้าก็จัดโต๊ะไว้รอแล้วเพราะบอกไว้ว่าตอนเย็นจะมานั่ง ก็ได้โต๊ะเดิม หิวด้วยซิมื้อกลางวันกินก๋วยเตี๋ยวไปชามเดียวเอง  ทีนี้เลยสั่งมาเยอะ กับข้าวก็เต้าหู้ทรงเครื่อง ยำเนื้อย่าง ปลาทับทิมทอด(เป็นซีกเป็นตัวมันเยอะไป) ผัดข้าวโพดอ่อน ผัดผักรวม นั่งกินไปหน่อยก็จุกละกินไม่ไหวเลยขอยกกลับห้อง  โรงแรมนี้ไม่มีรูมเซอร์วิซต้องยกไปเอง แต่พนักงานก็มาขอช่วยถือนะแต่ไม่เป็นไรถือได้ เหลือกับข้าว3จาน4อย่าง รวบพวกผัดผักมารวมกัน แล้วยกกลับห้องรอกินอีกรอบ  แล้วเดินมาถ่ายรูปตอนกลางคืน(รอบที่เท่าไหร่เนี่ย)คราวนี้เอาขาตั้งกล้องมาด้วย






คืนนี้นอนเร็วหน่อยไม่ถึงเที่ยงคืนก็นอนแล้วตั้งใจจะถ่ายพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้า  ตามอ่านต่อได้ในโพสสุดท้ายครับ

เพื่อนเรากับ10ปีความรักของมัน

เพื่อนเราวันนี้ได้ข่าวว่ามีอะไรผิดปกติ เดินทางไปจีนแต่ไม่ได้ไปทำงานทั้งทีปกติทางมหาลัยส่งไปทำงานที่นู่นบ่อยอยู่แล้ว แต่คราวนี้ไม่ได้ไปทำงาน  ถามรุ่นน้องมันก็บอกไม่ได้ เลยเดาว่ามันมีกิ๊กหรือว่ามีลูกที่นู่น น้องมันก็บอกพี่เดาเก่งนะ   ตายแหล่วแล้วแฟนมันล่ะมันคบกันมานานมากแล้วนี่นาตั้งแต่ปี 1999 ได้มั้งแล้วเป็นไงมาไง กลับจากงานรีบออนเอ็มจะคุยกับมันสักหน่อย แปีบเดียวมันก็มาละ  ถามกันตรงๆไปเลย
"เมิงมีไรป่าว"  "เมิงมีลูกหรือแค่มีกิ๊กวะ"  "ตกลงเมิงเลือกแล้ว"
คำตอบที่ได้ "กูเลือกแล้ว"  "กลับไปจะเล่าให้ฟัง" "just falling in love with the right girl" "อายุ23"
ปีที่แล้วยังถามมันอยู่เลยว่าเมื่อไหร่จะแต่งงาน มันก็บอกใกล้แล้ว  เพื่อนเอ๊ยเกิดอะไรกับเมิงเนี่ย  โอเคชอบเด็กก็ไม่แปลกแต่อนาคตจะเป็นไง ไปอยู่นู่น หรือเค้ามาอยู่นี่ จะไปกันรอดป่าว  รักแน่หรอ  รักอย่างเดียวไม่พอนะ หรือมีอะไรวับซ้อนกว่านั้นเพราะเมิงไม่ยอมบอก บอกแต่ว่ากลับมาจะเล่าให้ฟัง  ทั้งหมดก็แล้วแต่เพื่อนละ เพื่อนเลือกเอง โตแล้ว จะเลือกยังไงก็ยังเป็นเพื่อนกัน ไม่ตำหนิกันหรอก เรื่องแบบนี้ แค่อยากให้รอบคอบ เพราะไม่รู้ว่ามันกับแฟนคนปัจจุบันเป็นไงบ้าง  ได้ข้อสรุปว่าไงจะมาโพสอีกทีครับ

Thursday, May 5, 2011

ส่วนไหนของผู้ชายที่ผู้หญิงคิดว่ามีเสน่ห์

กับคำถามในรายการคนละดาวเดียวกันที่ว่า ส่วนไหนของผู้ชายที่ผู้หญิงคิดว่ามีเสน่ห์  ก. แววตา   ข. ลักยิ้มเขี้ยว  ค. ไหล่แผ่นหลัง  ง. หน้าอก
ผลสำรวจบอกว่า  แต่นแต้น    แววตา  ลักยิ้ม,เขี้ยว มาเป็นที่1และ2ตามลำดับ ส่วนอันดับ3-4 จำไม่ได้ โอ๊ะโอ๋ นอกจากหน้าตาแล้วแววตาก็เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้หญิงประทับใจได้เหมือนกันแฮะ ส่วนพวกรูปร่างแบบไหล่กว้าง หน้าอกแน่นๆอะไรพวกนี้กลับได้รับความสำคัญน้อยกว่า เอาเป็นว่าไม่ต้องไปฟิตนงฟิตเนสกันละบริหารดวงตาอย่างเดียวก็พอแล้วว่าไหม

Monday, May 2, 2011

Road to Kasem Island(1/3)

       การเดินทางสู่เกาะเกษมสำราญ เพื่อพักที่เกาะเกษมรีสอร์ต จังหวัดกาญจนบุรี โอเคทำความเข้าใจกับผู้เขียนก่อน การเดินทางครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อไปเที่ยวเพราะไม่ได้เจาะจงว่าจะต้องไปที่ไหนบ้าง ไม่มีตารางเวลาแน่นอน ตั้งใจไปกิน นอน เดินเล่น ถ่ายรูปเพื่อปรับปรุงคุณภาพทางสมอง เอาให้อ่านยากกว่านี้คือ เพื่อลบพวกไฟล์ขยะและ Catch L1 L2 L3 ของ CPU นั่นเอง ยากพอไหมครับ ผลลัพธ์ก็ได้พักสมใจ จะบอกว่าไม่มีเรื่องงานผ่านเข้ามาในสมองก็คงจะโกหกแต่มันผ่านเข้ามาแล้วก็ผ่านไปไม่ได้เก็บมาคิดต่อ ทำทุกอย่างให้สบายที่สุดพยายามที่จะไม่ให้ตัวเองลำบาก ใช้เวลาทั้งหมด 3 วัน 2 คืน
       เริ่มเดินทางประมาณสายๆวันเสาร์ถึงสายใต้ประมาณ 10โมงกว่าๆ นั่งกินกาแฟเอสเปรสโซร้อนกับแซนวิชรองท้องที่ Black Canyon จากนั้นซื้อตั๋วรถทัวร์ป.1 ราคา99บาท รถออก 11:20 ที่ชานชาลา 10 รถออกเดินทางตรงเวลา ระหว่างทางมีคนขึ้นและลงตลอดทาง สงสัยว่าเป็น ป.1ตรงไหนเนี่ย ผ่านนครปฐม บ้านโป่ง จนถึงเมืองกาญประมาณบ่าย2โมงกว่า เห็น ททท.อยู่ติดถนนแสงชูโตใกล้กับท่ารถทัวร์ ถนนแสงชูโตนี่น่าจะเป็นถนนหลักของเมืองนี้ ขอแผนที่จาก ททท.แล้วโทรหาที่รีสอร์ตว่าจะไปได้ยังไง วิธีไปคือ สามารถนั่งสองแถวคันสีส้มๆไปได้แต่คิดว่าไปได้ทั้งเหมาและนั่งไปปกติหรือเดินไป ก่อนมาถึงท่ารถเห็นป้ายแล้วล่ะครัวชุกโดนไม่น่าจะไกล ตกลงใจว่าเดินไปละกันไม่รีบนี่นา แต่ก็นะผิดแผนไปเยอะพอสมควรตั้งใจว่าจะให้ถึงโรงแรมประมาณเที่ยง เลทไป2ชั่งโมงกว่าก็โอเคเน๊อะ เดินไปถึง3แยกชุกโดนเป็น3แยกที่มีไฟจราจร สังเกตไม่ยากมีป้ายอยู่ฝั่งขาออกเมือง
         เดินเข้าไปก็รู้เลยว่านี่คือตลาด บ่ายแล้วคนค่อนข้างเยอะเหมือนกันเห็นร้านสะดวกซื้อเลขเจ็ด-สิบเอ็ดก็โอเคซื้อไรกลับโรงแรมไม่ยาก เดินตรงไปเลยครับจะเจอแยกเราก็เลาะซ้ายไปเรื่อยๆไม่นานก็ถึงครัวชุกโดน เป้าหมายอันนึงของเที่ยวนี้ แต่เอ.....ท่าเรืออยู่ตรงไหนนะ โทรหาโรงแรมก็ได้คำตอบว่าตรงครัวชุกโดนนี่แหละเดี๋ยวให้เรือมารับ

มุมมองจากท่าเรือตอนนี้ยังไม่รู้เหมือนกันว่าโรงแรมและเกาะอยู่ไหนเนี่ย คงจะลิบๆตานั่นมั้ง รออึดใจเดียวก็มีเรือมารับ เค้าออกมาส่งแขกที่พักด้วยและรับเราเข้าไปทีเดียว เรือก็มั่งคงดี ลำไม่ใหญ่มาก คนขับเรือเป็นลุงคนนึง นั่งเรือไปความรู้สึกขณะนั้นคือ นี่มันที่ไหนเนี่ย มีที่แบบนี้ในเมืองด้วยหรือ อีกไกลไหมกว่าจะถึง สวยดีจริงๆ ประทับใจตั้งแต่นั่งเรือว่ากันอย่างนั้น สายตาก็มองหาว่าโรงแรมอยู่ไหนเนี่ย พักเดียวไม่ถึง 5 นาทีก็มาถึงโรงแรม



    ถึงแล้วครับดูร่มรื่นดี แต่อ่านจากรีวิวของฝรั่งแล้วบางคนก็ว่าดี บางคนก็บ่น โดยเฉพาะเรื่องบริการ  ขึ้นจากท่าเรือเสร็จจัดการเช็คอิน ลากกระเป๋าไปที่ห้อง สำหรับห้องที่จองไว้เป็นห้องแอร์แบบมีโทรทัศน์ นั่งพักล้างหน้าเสร็จเอากระเป๋าเป้จัดของเท่าที่จำเป็น ไปกินข้าวก่อนหิวแล้วล่ะ นั่งกินในโรงแรมนี่แหละถ้ามันแพงก็สั่งของถูกๆหน่อยแล้วค่อยไปเพิ่มเอาข้างนอกแต่ตอนนี้มือสั่นแล้ว
    โซนห้องอาหารของโรงแรมมีทั้งอยู่ในอาคารและริมแม่น้ำ เราเลือกริมแม่น้ำโต๊ะริมสุด(มีเซอร์ไพรซ์เราด้วยในมื้อถัดไป เดี๋ยวเล่าให้ฟัง) ดูเมนูแล้วราคาก็ไม่ได้แพงอะไรธรรมดา สั่งน้ำมากินกับไก่พัดผงกระหรี่ราดข้าว 70 บาทกับชามะนาว 45 บาท ส่วนของแฟนสั่งข้าวผัดน้ำพริกลงเรือมั้งไม่แน่ใจกับเบียร์สิงห์เล็กขวดนึง 60 บาท ราคาก็โอเคนั่งกินได้สบายๆ นั่งได้แป๊บนึงแฟนบอกให้เปลี่ยนที่นั่งเถอะไม่ชอบต้นไม้ที่อยู่ด้านหลังเรา ใบมันเป็นตุ่มๆ คุณเธอไม่ชอบเลย ขยับไปอีกสองโต๊ะ กินเสร็จถามตรงล๊อบบี้ว่ามีไรให้เที่ยวบ้าง คิดว่าจะไปสะพานข้ามแม่น้ำแคว เนื่องจากเป็นที่เที่ยวที่ดูแล้วไกลสุดแต่ระยะทางไม่ไกลมาก ไปได้2แบบ คือ นั่งรถสองแถวหรือนั่งมอโซด์ไป พนักงานบอกว่าแถวนั้นก็จะมีให้ซื้อของฝากเดินลงมาหน่อยก็จะเป็นถนนข้าวสารเมืองกาญจน์ ค่ามอไซด์ราคาคนละ 40 บาท ตรงสามแยกที่เดินเข้ามา(ตรงที่บอกให้เลาะซ้ายนั่นแหละ) ตกลงกันว่าไปมอไซด์แล้วขากลับค่อยกลับสองแถวเอาเร็วไว้ก่อนเพราะมันบ่ายมากแล้ว ได้คุณลุงคนนึงขี่ไปสองคน80บาท ระหว่างทางแถวประตูเมืองที่หมายตาไว้ว่าจะต้องแวะไปก็ผ่านร้านกาแฟที่อยู่ในตึงทรงโบราณสีเหลือง นั่นแน่ะต้องหาเวลามานั่งให้ได้ นั่งมอไซด์ประมาณ10นาทีมั้ง เราก็มาถึงสะพานข้ามแม่น้ำแคว ตอนนี้ก็แยกกันละแฟนไปหาซื้อของฝาก ส่วนเราก็เิดินหามุมถ่ายรูปไปเรื่อยๆ


เวลารถไฟผ่านมานี่ทุกคนพร้อมใจกันถ่าย รถไฟก็บีบแตรไปเรื่อยวิ่งช้าๆ คนก็ลงไปตรงรางแล้วก็ถ่ายรูปกัน คนไทยหรือฝรั่งก็เหมือนกันหมด เดินไปแวะดูพิพิธภัณฑ์สงครามตรงนั้นแต่ไม่ได้เข้าไปถ่ายแต่รถไฟข้างหน้า
กว่าจะกลับเลย5โมงเย็นรถสองแถวเหมือนจะหมด เลยได้นั่งมอไซด์กลับ เดินผ่านร้านเจ็ด-สิบเอ็ดก็แวะซื้อขนมและเบียร์เข้าโรงแรมหน่อย โปแกรมสุดท้ายของวันนี้ก็คือกินข้าวประมาณทุ่มนึงที่ร้าน ครัวชุกโดน ที่ใครๆก็บอกว่าเป็นร้านเด็ด ร้านอร่อยและถูก วันนี้มีจัดเลี้ยงอะไนกันไม่รู้คนเยอะเลยนั่งกันบนฝั่ง พูดถึงราคาก่อน  ราคาก็ไม่แพงครับ ปลากระพงทอดราดน้ำปลา 180 บาทโดยประมาณ เขียวหวานเนื้อ 70 บาท ยำสาวชุกโดนก็ราคาใกล้ๆกัน ปลาคังลวกก็เท่าไหร่จำไม่ได้แล้ว โดยรวมราคากับรสชาดดีทีเดียว บรรยากาศโอเค ห้องน้ำสะอาด บริการดีครับมีปัญหานิดเดียวคือตอนสั่งไม่ได้ทวนออร์เดอร์เลยต้องทวงอาหารกันนิดนึง กว่าจะได้กิน เซ็งเหมือนกัน ถ้าทวนออร์เดอร์ล่ะก็ให้คะแนนรวม 8/10เลย

เสร็จจ่ายค่าเสียหายประมาณ6ร้อยกว่าๆมั้ง โทรเรียกเรือกลับเข้าโรงแรม เดินถ่ายรูปตอนกลางคืนนิดนึงก็นอน หมดไปวันแรก
ต่อวันที่สองในหัวถัดไปครับ   ดูรูปเต็มๆทั้งมหดได้ที่ http://s961.photobucket.com/albums/ae98/RoboTing/Kasem%20Island%20Resort/