Monday, July 25, 2011

แชร์ไวไฟที่คุณใช้อยู่ให้คนอื่นๆใช้บ้าง แบบยุ่งยากหน่อย(Share wifi to wifi)

         ก็ตามหัวข้อนั่นแหละครับ ผมตามหาวิธีแชร์ไวไฟที่ต่อจากที่พัก ซึ่งใช้ได้แค่ user เดียว แต่พักหลายคน อุปกรณ์มีหลายตัว ทำไงดีต้องมารอกัน มาแย่ง มาแบ่ง กันใช้ โอเคผมมีวิธีที่สามารถใช้ได้มากกว่าuserเดียวแต่ก็นะ วิธีการก็ชั่วหน่อย ใช้ได้ไม่ตลอด แต่ผมโอเคนะ แล้วคนอื่นๆล่ะ คงไม่สามารถใช้วิธีแบบผมได้ทุกคน ทุกเครื่อง ทุกอุปกรณ์  ตามหาวิธีมานาน หลายเวบ เจอแต่การแชร์อินเตอร์เนตจากสายแลนเพื่อไปออกไวไฟให้คนอื่นๆใช้  แต่ที่ผมต้องการน่ะ คือ ผมรับไวไฟมา แล้วแชร์ไวไฟที่ต่ออยู่ด้วยไวไฟอีกที  แน่นอนว่าไวไฟตัวเดียวทำแบบนี้ไม่ได้ ลงทุนหน่อย แต่ผมมี usb wireless อยู่แล้วก็เลยไม่ต้องลงทุนอะไร แค่ลงมือ  เริ่มจากอุปกรณ์ที่ผมใช้ก่อน
PCหรือ แล๊ปท๊อป ก็ได้ เอาแรงผมสมควรอย่างน้อยแรมไม่น่าจะน้อยกว่า 1 Gb  HDD ไม่น้อยกว่า 20Gb ไวเรส 2 ตัว ซึ่งถ้าเป็นโน๊ตบุ๊คมีมาอยู่แล้วก็หามาเพิ่มอีก1ตัว แต่ตัวที่เพิ่มต้องสามารถปรับโหมดเป็น AP(Station) ได้นะครับ ตัวที่มาอยู่ในโน๊ตบุ๊คไม่จำเป็นครับว่าจะต้องปรับโหมดได้ แต่ตัวที่เิ่พิ่มมานั้นจำเป็นนะครับย้ำอีกที
โปรแกรมครับ  ก็เป็นแผ่น window เอาเป็น XP ดีกว่าครับ กินทรัพยากรน้อยดี ไดรเวอร์สำหรับwireless โปรแกรม VMware work station จะเป็นเวอร์ชัน 6 หรือ 7 ไม่เกี่ยงครับ
   คงทราบแล้วหรือเปล่าครับว่าผมทำอย่างไร อธิบายคร่าวๆได้อย่างนี้ครับ  เจ้าไวไฟนั้นเมื่อเปลี่ยนโหมดเป็น AP หรือที่เรียกว่า Access Point นั้นจะต้องรับมาจากสายก็พวกสายแลนแล้วกระจายออกแบบไร้สาย พวกโปรแกรม Connectify ที่บอกว่าแชร์ไวไฟนั้นผมลองแล้ว รับไวไฟแล้วแชร์ออกไวไฟไม่ได้หรือผมทำไม่เป็นก็ไม่รู้ล่ะ  ผมก็จะรับสัญญาณไวไฟมา จากนั้นลงโปรแกรม VMware เพื่อจำลองคอมพิวเตอร์อีกตัวในเครื่องเรา เพื่อให้เกิดการแชร์อินเตอร์เนตไปที่แลนของเครื่องที่จำลองไว้นั่นแหละครับ  จากนั้นตั้งแชร์อินเตอร์เนตจากการ์ดแลนที่จำลองนั้นมาออกที่ไวเรสที่เราตั้งเป็นโหมด AP ไว้เท่านั้นเอง ตั้งรหัสให้ใช้กัน แค่นี้ก็เล่นกันได้หลายเครื่องแล้ว  แต่ก็เหมือนน้ำนั่นแหละครับมีมาท่อเดียวคนใช้เยอะก็ต้องแบ่งๆกันไป ใครโหลดบิตก้เหมือนติดปั๊มน้ำไว้ คนอื่นๆก็ได้น้ำที่ไม่แรงเท่า  เครื่องแม่ก็ต้องแรงนิดนึงเพราะต้องจำลองโดยแบ่งแรม HDD ไปด้วย
     มาดูอุปกรณ์ผมละกันครับ




    ใครที่ทำไม่เป็นผมจะอธิบายละเอียดอีกทีครับ รอหน่อยละกัน

Rango ไม่หนุกเท่าไหร่

 ตามหัวเรื่องนั่นแหละครับ ถ้าว่ากันที่ความสนุกไม่ค่อยเท่าไหร่  เริ่มต้นมาก็แปลกๆซะแล้วบางทีฝรั่งอาจสนุกและเก็ตมุก แต่ผมไม่อ่ะ จริงๆแล้วถ้าลดการนำเสนอแบบหวือหวาออกก็จะทำให้สนุกขึ้นเพราะมันบดบังแกนเรื่อง หลังจากดูจบดูกัน3คน คนนึงถามว่า"เรื่องนี้มันอะไร มันจะบอกอะไร  มันจะเสียดสีอะไรหรือเปล่า ไม่เข้าใจ"  อีกคนนึงตอบ"ก็เกี่ยวกับนายทุน เกี่ยวกับสนามกอล์ฟ"  นี่คือข้อพิสูจน์ไง มันมีอะไรมาบดบัง ทั้งการนำเสนอ ทั้งมุกฝรั่ง เช่น จิตวิญาณแห่งตะวันตก  ผมเข้าใจว่าในเรื่องน่าจะเป็น ปู่คลินต์ อิสวูด นะ เพราะท้ายรถเห็นมีรางวัลออสการ์ด้วย แล้วสมัยหนุ่มๆแกก็เล่นหนังคาวบอยมา  หวังงว่าคงเข้าใจมุกถูกนะครับ  
    มาว่ากันที่แกนของเรื่องสำหรับผมเองบ้าง  อาจจะเข้าใจผิดก็ได้นะ  "Who am I?" กับ "Hero"
 เป็นสองคำที่นึกถึง เจ้าพระเอกของเราถามกับตัวเอง ฉันเป็นใคร  ชื่อฉันชื่ออะไร ฉันอุปโลกตัวเองขึ้นมาว่าฉันชื่อแรงโก้ ฉันเก่ง ฉันกลายเป็นฮีโร่ของเมือง  และเมืองก็ต้องการฮีโร่ซะด้วย เนื่องด้วยความเพ้อของตัวเอกนี่เองทำให้การนำเสนอออกมาดูล่องลอยไปด้วย  แต่สุดท้ายคือ ฉันเป็นอะไรก็ได้ที่ฉันอยากจะเป็น ถ้าฉันกล้าพอ ถ้าฉันลงมือทำ มันก็จะเป็นจริง  บางครั้งเราต้องการฮีโร่เพื่อต้องการแรงบัลดาลใจ แน่นอนกว่าแรงโก้จะนึกได้ พอนึกได้ก็ทำให้เรื่องวุ่นๆจบลง(พยายามไม่สปอยล์นะครับ) ส่วนเมืองที่สิ้นหวังที่ต้องการฮีโร่ พอมีขึ้นมาก็มีชีวิตชีวาขึ้นมาบ้าง  พอฮีโร่ไม่ใช่ฮีโร่จริงๆก็เซ็งจิตครับ ทั้งๆที่จะมาพึ่งหวังที่คนอื่นคงไม่ใช่
   ดูจบผมก็นึกไม่ออกนะว่านิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า เพราะยังงงๆกับอะไรก็ไม่รู้ แต่เมื่อนึกถึงสิ่งที่แรงโก้ถามตัวเอง ซึ่งมันก็ติดอยู่ในใจ ก็เดาว่า นิทานเรื่องสอนให้รู้ว่าเราเป็นฮีโร่ได้นะ อย่ามัวแต่ฝัน การมีฮีโร่เป็นแรงบัลดาลใจก็ไม่ใช่เรื่องผิด แต่การรอคอยฮีโร่สิผิด  ผมนึกฮีโร่ที่จะเป็นแรงบันดาลใจผมไม่นอกแฮะ คุณล่ะมีหรือเปล่า คุณอยากเป็นใครแล้วเริ่มลงมือทำหรือยัง??