Monday, July 25, 2011

แชร์ไวไฟที่คุณใช้อยู่ให้คนอื่นๆใช้บ้าง แบบยุ่งยากหน่อย(Share wifi to wifi)

         ก็ตามหัวข้อนั่นแหละครับ ผมตามหาวิธีแชร์ไวไฟที่ต่อจากที่พัก ซึ่งใช้ได้แค่ user เดียว แต่พักหลายคน อุปกรณ์มีหลายตัว ทำไงดีต้องมารอกัน มาแย่ง มาแบ่ง กันใช้ โอเคผมมีวิธีที่สามารถใช้ได้มากกว่าuserเดียวแต่ก็นะ วิธีการก็ชั่วหน่อย ใช้ได้ไม่ตลอด แต่ผมโอเคนะ แล้วคนอื่นๆล่ะ คงไม่สามารถใช้วิธีแบบผมได้ทุกคน ทุกเครื่อง ทุกอุปกรณ์  ตามหาวิธีมานาน หลายเวบ เจอแต่การแชร์อินเตอร์เนตจากสายแลนเพื่อไปออกไวไฟให้คนอื่นๆใช้  แต่ที่ผมต้องการน่ะ คือ ผมรับไวไฟมา แล้วแชร์ไวไฟที่ต่ออยู่ด้วยไวไฟอีกที  แน่นอนว่าไวไฟตัวเดียวทำแบบนี้ไม่ได้ ลงทุนหน่อย แต่ผมมี usb wireless อยู่แล้วก็เลยไม่ต้องลงทุนอะไร แค่ลงมือ  เริ่มจากอุปกรณ์ที่ผมใช้ก่อน
PCหรือ แล๊ปท๊อป ก็ได้ เอาแรงผมสมควรอย่างน้อยแรมไม่น่าจะน้อยกว่า 1 Gb  HDD ไม่น้อยกว่า 20Gb ไวเรส 2 ตัว ซึ่งถ้าเป็นโน๊ตบุ๊คมีมาอยู่แล้วก็หามาเพิ่มอีก1ตัว แต่ตัวที่เพิ่มต้องสามารถปรับโหมดเป็น AP(Station) ได้นะครับ ตัวที่มาอยู่ในโน๊ตบุ๊คไม่จำเป็นครับว่าจะต้องปรับโหมดได้ แต่ตัวที่เิ่พิ่มมานั้นจำเป็นนะครับย้ำอีกที
โปรแกรมครับ  ก็เป็นแผ่น window เอาเป็น XP ดีกว่าครับ กินทรัพยากรน้อยดี ไดรเวอร์สำหรับwireless โปรแกรม VMware work station จะเป็นเวอร์ชัน 6 หรือ 7 ไม่เกี่ยงครับ
   คงทราบแล้วหรือเปล่าครับว่าผมทำอย่างไร อธิบายคร่าวๆได้อย่างนี้ครับ  เจ้าไวไฟนั้นเมื่อเปลี่ยนโหมดเป็น AP หรือที่เรียกว่า Access Point นั้นจะต้องรับมาจากสายก็พวกสายแลนแล้วกระจายออกแบบไร้สาย พวกโปรแกรม Connectify ที่บอกว่าแชร์ไวไฟนั้นผมลองแล้ว รับไวไฟแล้วแชร์ออกไวไฟไม่ได้หรือผมทำไม่เป็นก็ไม่รู้ล่ะ  ผมก็จะรับสัญญาณไวไฟมา จากนั้นลงโปรแกรม VMware เพื่อจำลองคอมพิวเตอร์อีกตัวในเครื่องเรา เพื่อให้เกิดการแชร์อินเตอร์เนตไปที่แลนของเครื่องที่จำลองไว้นั่นแหละครับ  จากนั้นตั้งแชร์อินเตอร์เนตจากการ์ดแลนที่จำลองนั้นมาออกที่ไวเรสที่เราตั้งเป็นโหมด AP ไว้เท่านั้นเอง ตั้งรหัสให้ใช้กัน แค่นี้ก็เล่นกันได้หลายเครื่องแล้ว  แต่ก็เหมือนน้ำนั่นแหละครับมีมาท่อเดียวคนใช้เยอะก็ต้องแบ่งๆกันไป ใครโหลดบิตก้เหมือนติดปั๊มน้ำไว้ คนอื่นๆก็ได้น้ำที่ไม่แรงเท่า  เครื่องแม่ก็ต้องแรงนิดนึงเพราะต้องจำลองโดยแบ่งแรม HDD ไปด้วย
     มาดูอุปกรณ์ผมละกันครับ




    ใครที่ทำไม่เป็นผมจะอธิบายละเอียดอีกทีครับ รอหน่อยละกัน

Rango ไม่หนุกเท่าไหร่

 ตามหัวเรื่องนั่นแหละครับ ถ้าว่ากันที่ความสนุกไม่ค่อยเท่าไหร่  เริ่มต้นมาก็แปลกๆซะแล้วบางทีฝรั่งอาจสนุกและเก็ตมุก แต่ผมไม่อ่ะ จริงๆแล้วถ้าลดการนำเสนอแบบหวือหวาออกก็จะทำให้สนุกขึ้นเพราะมันบดบังแกนเรื่อง หลังจากดูจบดูกัน3คน คนนึงถามว่า"เรื่องนี้มันอะไร มันจะบอกอะไร  มันจะเสียดสีอะไรหรือเปล่า ไม่เข้าใจ"  อีกคนนึงตอบ"ก็เกี่ยวกับนายทุน เกี่ยวกับสนามกอล์ฟ"  นี่คือข้อพิสูจน์ไง มันมีอะไรมาบดบัง ทั้งการนำเสนอ ทั้งมุกฝรั่ง เช่น จิตวิญาณแห่งตะวันตก  ผมเข้าใจว่าในเรื่องน่าจะเป็น ปู่คลินต์ อิสวูด นะ เพราะท้ายรถเห็นมีรางวัลออสการ์ด้วย แล้วสมัยหนุ่มๆแกก็เล่นหนังคาวบอยมา  หวังงว่าคงเข้าใจมุกถูกนะครับ  
    มาว่ากันที่แกนของเรื่องสำหรับผมเองบ้าง  อาจจะเข้าใจผิดก็ได้นะ  "Who am I?" กับ "Hero"
 เป็นสองคำที่นึกถึง เจ้าพระเอกของเราถามกับตัวเอง ฉันเป็นใคร  ชื่อฉันชื่ออะไร ฉันอุปโลกตัวเองขึ้นมาว่าฉันชื่อแรงโก้ ฉันเก่ง ฉันกลายเป็นฮีโร่ของเมือง  และเมืองก็ต้องการฮีโร่ซะด้วย เนื่องด้วยความเพ้อของตัวเอกนี่เองทำให้การนำเสนอออกมาดูล่องลอยไปด้วย  แต่สุดท้ายคือ ฉันเป็นอะไรก็ได้ที่ฉันอยากจะเป็น ถ้าฉันกล้าพอ ถ้าฉันลงมือทำ มันก็จะเป็นจริง  บางครั้งเราต้องการฮีโร่เพื่อต้องการแรงบัลดาลใจ แน่นอนกว่าแรงโก้จะนึกได้ พอนึกได้ก็ทำให้เรื่องวุ่นๆจบลง(พยายามไม่สปอยล์นะครับ) ส่วนเมืองที่สิ้นหวังที่ต้องการฮีโร่ พอมีขึ้นมาก็มีชีวิตชีวาขึ้นมาบ้าง  พอฮีโร่ไม่ใช่ฮีโร่จริงๆก็เซ็งจิตครับ ทั้งๆที่จะมาพึ่งหวังที่คนอื่นคงไม่ใช่
   ดูจบผมก็นึกไม่ออกนะว่านิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า เพราะยังงงๆกับอะไรก็ไม่รู้ แต่เมื่อนึกถึงสิ่งที่แรงโก้ถามตัวเอง ซึ่งมันก็ติดอยู่ในใจ ก็เดาว่า นิทานเรื่องสอนให้รู้ว่าเราเป็นฮีโร่ได้นะ อย่ามัวแต่ฝัน การมีฮีโร่เป็นแรงบัลดาลใจก็ไม่ใช่เรื่องผิด แต่การรอคอยฮีโร่สิผิด  ผมนึกฮีโร่ที่จะเป็นแรงบันดาลใจผมไม่นอกแฮะ คุณล่ะมีหรือเปล่า คุณอยากเป็นใครแล้วเริ่มลงมือทำหรือยัง??

Friday, June 10, 2011

Insidious เกือบๆจะดีนะ

นานๆทีจะเลือกดูหนังประเภทนี้นะ เรื่องก็ประมาณว่าครอบครัวนึงมีลูก3คนย้ายเข้ามาบ้านใหม่ หวังว่าทุกอย่างจะโอเค แต่วันแรกๆก็เป็นเรื่องละ อยู่ๆหนังสือที่เพิ่งวางไว้บนชั้น หันมาอีกทีก็กองอยู่ที่พื้นละ อยู่ๆสัญญาณกันขโมยก็ดังและอื่นๆ  หนังก็ทำได้น่ากลัวดีนะครับ เอาเป็นว่าขนลุกตลอดเรื่องเวลาที่มีผีโผล่มา ผีไม่ได้มาแบบแหวะๆนะครับ แล้วก็ไม่ได้ทำให้ตกใจ แบบนี้ค่อนข้างชอบครับ ประเภทผีผ่าง....มาพร้อมเสียงดังๆให้ตกใจแบบนี้ไม่เอามันแค่ตกใจ แต่ไม่ได้น่ากลัว  แต่ไปๆมาๆ เรื่องมันชักเลอะเทอะน่ะ ไม่เล่าครับ ไปดูเอาเอง เอาเป็นว่าน่ากลัวแต่เนื้อเรื่องไม่ดีเท่าไหร่ สรุปได้ว่าพอดูได้ครับ ดูจบดูอะไรต่อ  ถ้าเกี่ยวกับวิญญาณก็ต้องเป็น Exorcist ซิ

Wednesday, June 8, 2011

วิธีเปลี่ยน Mac Address สำหรับ Win7

How to change Mac Address wireless for Win7.... สำหรับระบบอื่นไม่แน่ใจนะครับ ผมเป็นคนหนึ่งที่เคยใช้ Win Xp มาตลอดและสามารถเปลี่ยน Mac ได้โดยปกติ สาเหตุของการเปลี่ยนน่ะหรือครับ อิอิ...ก็คงไม่พ้นเรื่องไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ วันนึงเครื่องที่ใช้มาเกือบ 8 ปีได้ล้มหายตายจากลง เมื่อต้องซื้อใหม่(ก็มันจำเป็นไม่มีคอมเหมือนขาดอะไรไปบางอย่าง)ก็ต้องจัดเต็มให้สเปคมันโอเคหน่อย เมื่อเครื่องพร้อมระบบปฏิบัติการก็ต้องพร้อม เลือก Win7 ไปเลย ให้ทันสมัยหน่อย ส่วนเรื่องการเปลี่ยน Mac ค่อยว่ากัน มันต้องมีวิธีสิน่า ลงWin7 เสร็จ เสียบตัว Wireless ปั๊บ วินโดวก็เจอปุ๊บ แหม่.....มันช่างดีอะไรเช่นนี้บรรจุไครเวอร์มาพร้อมเลยไม่ต้องลงเพิ่ม  ก่อนอื่นขอบอกว่าใช้ WIreless Adapter เป็น TP-Link แบบ USB รุ่น WN321G ชิพเซตเป็น RT73 จะรู้ได้ไง ถ้าเคยลงไดรเวอร์ตัวwireless ตัวที่เคยใช้มาแล้วก็ไปที่โฟลเดอร์ไดรเวอร์มันจะบอกชื่อชิพเอาไว้
มาว่ากันต่อ สำหรับ Win7 นั้นจะใช้โปรแกรมใดๆก็ไม่เป็นผล ลองมาเยอะแล้วที่ว่าทำสำเร็จแต่ของเราทำไมไม่สำเร็จแฮะ  ไม่ว่าจะเป็น mac changer,mac makeup,techsmith และอื่นๆ
     สุดท้ายมีคนพูดถึงไดรเวอร์ว่าให้ใช้ไดรเวอร์ของ XP เพราะไดรเวอร์ win7 จะไม่รองรับการเปลี่ยนmac  สุดท้ายเลยลองดูครับเปลี่ยนไดรเวอร์มาเป็นของ xp ก็ใช้งานได้ไม่มีปัญหา แถมเปลี่ยน mac ได้ตามที่เคยทำด้วย(Properties--> Configure-->Advance-->Local Mac Network Address) แต่เข้าใจว่าสามารถใช้โปรแกรมเปลี่ยนได้ด้วยเช่นกัน คิดว่าใครที่สามารถเปลี่ยน mac address ใน xp ได้ สำหรับ win7 ลองลงไดรเวอร์ xp ก็น่าจะสามารถเปลี่ยน mac ได้เช่นกันครับ  ลองดู.....ขอให้โชคดี

Thursday, June 2, 2011

ผู้ชายไม่ชอบให้ผู้หญิง หึงแบบไหนมากที่สุด

คำถามจากรายการอาทิตย์นี้มีอยู่ว่า ผู้ชายไม่ชอบให้ผู้หญิงหึงแบบไหนมากที่สุด
ก.ขอรหัสผ่านต่างๆ จะเป็น อีเมล์ เฟสบุ๊ค อะไรก็ตามแต่                    ข. โทรจิกโทรตามตลอด          ค.คอยเช็คตารางงาน นั่นแน่ะเลิกงานแล้วไมไม่กลับบ้าน                   ง. เช็คมือถือ

ผมตอบ  "โทรตามตลอด" เพราะมันทำให้ทำงานไม่ได้และรู้สึกกดดันครับ เวลาต่อหน้าเพื่อนฝูงโทรมาตามตลอด แบบนั้นผู้ชายจะรู้สึกเสียหน้านะ ทั้งที่ความจริงก็กลัวเมียอยู่แล้ว แต่แกล้งทำเป็นเจ๋งไปงั้นเอง ฟอร์มเยอะว่ากันอย่างนั้น ส่วนข้อที่เหลือพวก รหัสผ่าน เช็คมือถือ ก็ไม่เห็นมีไร ตรวจสอบไปก็ไม่มีไรก็มันไม่มีนินา ดูไปเถอะ ส่วนมันจะละเมิดพื้นที่ส่วนตัวหรือไม่นั้นมันก็คงแล้วแต่คน สำหรับผมดูได้เลย
      มาเฉลยกัน โพลบอกว่า  "โทรจิกครับ" ผมเป็นพวกคนหมู่มากแฮะ เอ่อ...ส่วนอันดับรองๆจำไม่ได้ เอาเป็นว่าไปหาดูได้ตาม youtube ละกันครับ  ผู้หญิงรู้แล้วก็อย่าทำ ผู้ชายรู้แล้วก็อย่าทำให้หึง ทุกอย่างก็ Happy Ending

Sunday, May 22, 2011

Pirates of the caribbean-On the stranger tides

หนังฮิตภาคต่อที่มีคนติดตามรอชมรวมทั้งผมด้วย ผู้กำกับเปลี่ยนจาก กอร์ วอร์บินสกี้ มาเป็น ร็อบ มาแชล ความรู้สึกภาค2-3 ไม่ชอบเท่าไหร่ ยังไงภาคแรกสนุกที่สุด ภาคต่อๆมาความสนุกมันลดลง แต่ความตลกเพิ่มเข้ามา กัปตันดูเลอะไปหน่อย  กับภาค4ยังไงก็ดูครับ ว่ากันที่ตัวหลักก่อน จอห์นนี เดปป์ เหมาะสมที่สุดกับบทนี้ เปลี่ยนคนเมื่อไหร่เป็นอันจบกัน คาแรคเตอร์ภาคนี้กลับมาเป็นแบบภาคแรกรวมทั้งเนื่อเรื่องด้วย ว่ากันที่ตัวหนังความสนุกและความมันส์ดีทีเดียว ผมขอแยกกันนะครับ ภาคนี้ความสนุก การดำเนินเรื่องก็ไม่ได้รู้สึกว่ายืดยาด  สนุกสนานในเนื้อเรื่อง มุขที่ใส่เข้ามา ไม่เลอะเทอะครับ ความมันส์ใส่เข้ามาแบบต่อเนื่อง สำหรับผมมันอาจจะเยอะไปหน่อย ต้องบอกว่าชอบภาคล่าสุดมากกว่า2ภาคที่ผ่านมาหรือบอกได้ว่า กัปตันแจ๊ค คืนฟอร์มครับ

Tuesday, May 17, 2011

วิธีถอด Password สำหรับ Siemens S7-300

ซื้อเครื่องจักรมาใหม่จากไต้หวันครับ แน่นอนว่าใช้ PLC Siemens S7-300 ซึ่งมีเมโมรีการ์ดเสียบอยู่ที่ CPU Unit ดูๆก็น่าจะเป็น SDหรือ MMC Card นี่แหละครับแต่ความจุนี่สิ มันน้อยแบบแปลกๆ รู้สึกจะแค่ 32หรือ64 MB ซึ่งถือว่าน้อยมากๆเมื่อเทียบกับขนาดที่มีขายในท้องตลาดบ้านเรา  ลองเอาสายแบบ USB-MPI ไปเสียบจะอัพโหลดโปรแกรมขึ้นมาปรากฎว่าติดรหัสผ่าน  ว่าแล้วเค้าคงต้องใส่มา ลองหาทางเนตดู กูเกิลช่วยได้จริงๆครับ  มาดูสิ่งที่ต้องเตรียมครับ โปรแกรม2 ตัวตามนี้เลยครับ
http://www.mediafire.com/?9ajge54e0elt53p  สำหรับทำอิมเมจไฟล์
http://www.mediafire.com/?rdv127qzzvxmhd7  สำหรับแกะรหัส
เริ่มกันเลยครับ
1. เริ่มจากปิดเครื่องก่อนครับแล้วดึงเอาเมโมรีการ์ดออกมา เสียบเข้ากับการ์ด รีดเดอร์ทั่วไป จากนั้นใช้โปรแกรม S7ImgRD.exe เพื่อทำอิมเมจไฟล์ครับ จากการ์ดครับ แล้วเซฟไว้

2.หลังจากเซฟแล้วมาเปิดด้วยโปรแกรม Unlock_and_converter_MMC_Image_S7.exe ครับ โดยไปที่ Open>ไฟล์อิมเมจที่ทำไว้ จากนั้นที่เมนูบาร์จะมีPassword ขึ้นให้เลือกเป็น S7-300 รอแป๊ปใหญ่ๆครับ จะได้รหัสออกมา เป็นอันเสร็จ
3.ผลลัพธ์ครับ ใช้ได้จริงๆ แต่ค่า Customer Recipe หายหมด เข้าใจว่าน่าจะมาจากการที่ปรับไปยังโหมด Stop ก่อน แล้วดึงเมโมรีออกมา โดยที่ยังไม่ได้ตัดไฟ  ดังนั้นใครเอาไปทำก็ให้ระวังเอาไว้ครับ มาโทษกันไม่ได้นะครับ ผมก็เสี่ยงเอาจากที่ฝรั่งเค้าเขียนบอกมา พบปัญหาแค่นี้ครับ ที่เหลือเครื่องทำงานได้ปกติ
4.การต่อยอด ถ้าไม่แกะรหัส ก็สามารถเตรียมฮาร์ดแวร์แบบเดียวกันไว้ เดินสายอะไรต่างๆให้ครบ จากนั้นหาโปรแกรม S7ImgWR.exe เอาไว้ เพื่อทำการเขียนอิมเมจไฟล์ลงเมโมรี อีกใบเพื่อนำไปใส่เครื่องอื่นได้หรือจะสำรองไว้ก้แล้วแต่จุดประสงค์ครับ  ทีนี้ว่ากันด้วยเรื่องการ์ดของ Siemens ก็หาซื้อแบบเดียวกัน รุ่นเดียวกันมา หรือ สามารถเอาการ์ดที่มีขายกันมาใช้ได้แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะได้ทุกแบบ ทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ ครับ ลองหาอ่านเพิ่มเติมดู แต่ถ้าได้เครื่องจักรเพิ่มขึ้นมาอีกเครื่องโดยทำฮาร์ดแวร์เอง ก็คงจะประหยัดไปได้ไม่มากก็น้อยล่ะครับ แค่การ์ดซื้อเถอะครับ
    ใครเอาไปลองแล้วยังไงก็มาบอกกันได้นะครับ หรือจะปรึกษากันก็ได้ครับ]ลืมบอกไปว่า S7-200ก็ทำได้เหมือนกัน แต่ไม่เคยลองเหมือนกันเพราะไม่มีให้ลอง
http://www.mediafire.com/?s0khoc6xtlifi3o

Friday, May 13, 2011

Road To Kasem Island (3/3)

วันสุดท้ายแล้วครับตั้งใจตื่นมาตอนเช้าตรู่เพื่อถ่ายวิวตอนเช้า   ตั้งนาฬิกาปลุกแถมนอนเร็วอีกต่างหาก สิ่งที่ได้คุ้มครับ อากาศไม่ร้อน พระอาทิตย์พึ่งจะขึ้นสู่ขอบฟ้า แสงรำไร สวยครับ เลยถ่ายรูปมาพอสมควร ดูวิวแบบพาโนรามากันดีกว่า(ใช้โปรแกรมทำนะครับ ถ่ายเป็นช็อตแล้วนำมาต่อกัน)  ส่วนรูปอื่นๆก็ถ่ายแบบปกติ





เสร็จแล้วนอนต่อซะงั้น ก็นอนไม่ค่อยหลับครับ ได้ประมาณชั่วโมงกว่าก็ลุกขึ้นมากินอาหารเช้า รอเวลาเก็บของกลับบ้าน  วันนี้นัดคนไว้ครับ  พี่กิตเจ้าถิ่นที่จะกินข้าวเที่ยงด้วยกัน  ใกล้เที่ยงแล้วกำลังจะไปเช็คเอาท์พี่กิตโทรมาบอกว่ามาคอยแล้ว มาตั้งแต่11โมงครึ่ง เลยต้องรีบเช็คเอาท์เคลียร์ค่าอาหารทั้ง2วันที่ผ่านมา เบ็ดเสร็จประมาณ 700 เอง ถูกจัง ให้พนักงานทวนดูอีกที ไม่ตกไม่หล่นนะ  เตรียมให้เป็นพัน แบบนี้ต้องมาอีกซะแล้ว  กินมันในนี้แหละถูกดี  ข้ามเรือกลับมาเจอพี่กิตขับรถพาไปกินร้าน ปลาเผาเขาตอง  เป็นปลาช่อนเผา ชื่อดังของเมืองกาญจน์ เดินเข้าไปในร้านเกือบทุกโต๊ะจะต้องสั่งปลาช่อนเผามากินกัน  เป็นนิมิตรหมายที่ดีแปลว่าน่าจะอร่อยและมันตัวโตมาก  นึกว่ามานั่งกินไดโนเสาร์เพราะใหญ่เหลือเกิน
กลัวคาวเหมือนกันนะ  แต่ว่าอร่อยเนื้อหวานและไม่คาวแถมไม่แพงด้วย  บังเอิญนั่งอยู่ในเหลี่ยมที่เห็นเค้าช้อนปลามาจากถัง กำลังดิ้นเลย โดนไม้ทุบก็สลบหรือตายไม่แน่ใจ จากนั้นถูกนำไปเสียบไม้เอาปิ๊บคลุม เอาฟางมาสุ่มแล้วก็เผา  พอฟางไหม้จนหมดทิ้งไว้พักนึงก้เอาปลาออกมา นำเข้าครัวออกมาก็อยู่บนจานแบบในรูปนี่แหละ หลังจากนั้นก็นั่งรถทัวร์กลับเป็นอันจบทริป

Wednesday, May 11, 2011

ผู้หญิงไม่ชอบอะไรเกี่ยวกับแฟนเก่ามากที่สุด

จากรายการคนละดาวเดียวกันเหมือนเดิมครับ  คำถามสัปดาห์นี้สาเหตุของผลลัพธ์นี่ทำให้ขำๆและอึ้งบวกน่ากลัวไปเลย   คำถามที่ว่าผู้หญิงไม่ชอบอะไรเกี่ยวกับแฟนเก่ามากที่สุด
ก.รูปถ่าย    ข.เบอร์โทร   ค.smsหวานๆ   ง.ของแทนใจ
ผมทายว่า smsหวานๆเพราะน่าจะแปลว่ามีอะไรลึกๆป่าว สำหรับผมแฟนเก่าก็คือแฟนเก่า ความทรงจำคือความทรงจำ ในด้านความรักไม่มีความทรงจำที่เลวร้ายเป็นพิเศษ  อกหักก็เรื่องธรรมดานี่นา ถือว่าเป็นความทรงจำที่ดีที่ควรจดจำไว้  ส่วนเบอร์โทรมีไว้ก็ไม่แปลกเลิกกันก็เป็นเพื่อนกันได้  คุณล่ะทายข้อไหน
เฉลย  รูปถ่าย......     เหตุผลคือผู้หญิงนั้นจะจินตนาการข้ามการเวลา   คำนี้ทำให้ขำมากและก็น่ากลัวในเวลาเดียวกัน  โอ้โฮ  อะไรจะจินตนาการไปได้ทั้งอดีตและอนาคตขนาดนั้น  หมอบอกว่าผู้หญิงจะจินตนาการและเริ่มเปรียบเทียบตัวเองกับคนในรูปบ้าง อะไรบ้างไปต่างๆนานา เช่น ใช่ซิฉันไม่ได้ไว้ผมทรงนั้นนิเธอถึงได้ไม่ค่อยชอบทรงผมฉันเท่าไหร่ เธอถึงไม่เคยชมฉันเลยว่าสวย  เป็นไงล่ะครับเป็นตุเป็นตะกันเลย  เพศหญิงนี่นอกจากเข้าใจยากแล้วยังมีจินตนาการสูงส่งอีกด้วย  ขำๆนะครับอย่าคิดมาก ลองสังเกตคนรักคุณดีกว่าว่าจะไม่ชอบอะไรมากที่สุด

Monday, May 9, 2011

Road To Kasem Island Resort(2/3)

เช้าวันที่สองตื่นขึ้นในตอนเช้าตรู่แง้มม่านออกประมาณ6โมงกว่าๆ  ว้าวสวยจังเลยมีหมอกหน่อยๆ ท่าทางสดชื่นมากแต่ก็ยังง่วงมากเช่นกันเลยนอนต่อ ตื่นมาอีกทีประมาณ9โมงกว่า ล้างหน้าแปรงฟันแต่งตัวถือกล้องออกไปด้วยกินอาหารเช้า(รวมอยู่ในค่าห้อง)ก่อนแล้วค่อยเดินถ่ายรูปรอบเกาะอีกที  บรรยากาศไม่ร้อนมากเนื่องจากพระอาทิตย์ขึ้นทางหน้าระเบียงห้องนอน  ส่วนโซนทานอาหารจะได้บรรยากาศพระอาทิตย์ตก  จากโพสแรกบอกว่าจะมีเซอร์ไพรซ์ก็ตอนเช้านี่แหละ เดินมาถึงพนักงานบอก จัดโต๊ะไว้ให้แล้วก็งงนะ ปรากฎว่าเค้าจัดโต๊ะวางจาน มีด ส้อม ไว้โตีะเดิมที่เรานั่งเมื่อวานเหมือนจะจำว่าเราชอบนั่งตรงไหน ถ้าจำรายละเอียดแบบนี้ก็ถือว่าใส่ใจแขกมากๆประทับใจอ่ะ ดูบรรยากาศตอนเช้ากันก่อน
นั่งกันสบายๆเนื่องจากมีแขกอีกแค่โต๊ะเดียวรวมกันเป็นสองโต๊ะ  อาหารเช้าจัดมาเป็นเซตให้เลือกประมาณ4เซต ชุดแรกเป็นABF ให้เลือกเป็น กาแฟ ขนมปังปิ้ง น้ำส้ม ไข่ดาว-ไข่คน-ไข่ม้วน  ไส่กรอก-แฮม   อีกเซตนึงเปลี่ยนจากไข่-ไส้กรอกแฮม เป็น แพนเค๊ก   เซตที่3 เป็นคอร์นเฟลค เซตที่4 เป็นข้าวต้ม   ก็โอเคกับอาหารเช้านะไม่ได้มีเลือกหลากหลายหรือเริ่ดหรูอันใดแต่ก็พอเพียงกับความต้องการ ติกาแฟนิดนึง กาแฟน่าจะแก่กว่านี้และดีกว่านี้ เป็นคนชอบกาแฟแก่ๆหน่อย เลยยังไม่เต็มที่  เลยตกลงใจว่าวันนี้จะเดินเล่นเรียบถนนตามแม่น้ำไปเรื่อยๆ ผ่านวัดใต้ที่มีพิพิธภัณฑ์จากนั้นเดินผ่านร้านกาแฟที่หมายตาไว้เมื่อวาน หาอะไรกินตอนเที่ยงๆบ่ายๆ เดินไปประตูเมือง เสาหลักเมือง จากนั้นเจออะไรอยากแวะก็แวะไปเรื่อย  ก่อนอื่นหลังจัดการอาหารเช้าแล้ว ถ่ายรูปก่อน(อีกแล้ว)













มีกระต่ายด้วยนะเออเค้าเลี้ยงแบบปล่อยเลยแหละ เห็นตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว สงสัยเหมือนกันว่าจะมีมูลมันไหม เพราะเคยเลี้ยงกระต่ายจะมีมูลเยอะเหมือนกัน แต่เดินไปเดินมาก็ไม่ยังเจอนะดีจริงๆจะได้ไม่ต้องคอยระวัง มีนกด้วยไม่รู้มันพูดไรภาษาคนนี่แหละแต่ฟังไม่ออก  บนเกาะก็ร่มรื่นดีถึงแม้จะไม่เลี่ยมเพราะรกอยู่บ้างแต่พนักงานไม่เยอะจะทำทั้งหมดก็คงลำบากอยู่  สภาพห้องแต่ละแบบก็จัดว่าโอเคไม่หรู ไม่ใหม่ แต่ก็อยู่ได้นะ ถ้ามีการซ่อมบำรุงที่ดีกว่านี้จะแจ่มมากๆ สระน้ำครับ ด้านล่างดเหลืองๆไม่น่าเล่นดูเหมือนไม่ค่อยทำความสะอาด แต่เมื่อคืนลองเดินดูรู้สึกเค้าไม่ได้เปิดปั๊มให้น้ำวนเข้าออกสระนะ  แต่เหมือนเค้าสังเกตเห็นเราทำท่าจะเล่นก็มีการเปิดปั๊ม  แต่สรุปสภาพสระไม่น่าเล่นก็ไม่ได้เล่น
อ้อยอิ่งไปมาจนเกือบ10โมครึ่งมั้งถึงได้ออกเดินทาง  ให้เรือออกไปส่งที่ฝั่ง เดินไปเรื่อยๆแป๊บเดียวก็ถึงวัดใต้ที่มีพิพิธภัณฑ์เสียค่าเข้าชมคนละ10บาท ถูกหรือเปล่าไม่แน่ใจ  เคยมาครั้งนึงตอนทัศนศึกษาเมื่อนานมาแล้ว เข้าไปก็เจอแต่รูปเก่าๆ จากหนังสือพิมพ์บ้าง นิตยสารบ้าง อะไรบ้าง ก็มีแค่นั้นโดยทางเดินเป็นรูปตัว U ไม่ได้มีการบำรุงรักษากันเลย รูปโดนน้ำบ้าง แมลงกินบ้าง  แต่ก็10บาทนะ อยู่ได้พักนึงก็เดินออกมา เดินต่อไปเรื่อยๆ ไม่เหนื่อยเลยเพราะค่อยๆเดินและระยะทางก็ใกล้เสียด้วย
เริ่มเข้าูสู่่ตัวเมือง อาคารบ้านเรือนก็ยังดูเป็นทรงโบราณอยู่เยอะ อนุรักษ์กันไว้ได้ดีทีเดียว  ก่อนมาถึงร้านกาแฟที่หมายตากันไว้  เจอร้านก๋วยเตี๋ยวคนนั่งกันแน่นทีเดียว โน๊ตไว้เลยว่ากินกาแฟก่อนมื้อเที่ยงค่อยมากินคนเยอะแบบนี้ท่าจะอร่อย  เจอร้านกาแฟแล้วครับ





ร้านน่านั่งดีครับ ตกแต่งได้ดูดีชอบเลย มีดาราเคยมาแล้วก็หลายคนสังเกตได้จากรูปถ่ายต่างๆ นอกจากกาแฟแล้วก็ยังมีขายของที่ระลึก ของเล่นสังกะสี เสื้อ อะไรประมาณนี้ คนเยอะพอสมควรมีคนเข้ามาเรื่อยๆแต่ไม่ได้นั่งกินกาแฟกันเยอะ เลยมีที่ให้เราได้นั่งเรื่อยเปื่อยไป  ร้านกาแฟถ้ากาแฟไม่อร่อยก็จบกัน รสชาดกาแฟก็บอกตามตรงว่าพอได้อยู่ ราคาก็ไม่ได้แพงอะไร มีของหวานพวกเฉาก๊วย ขนมปังเย็น วาฟเฟิลด้วย นั่งเล่นเพลินๆได้อยู่ นั่งอยู่จนเกือบบ่ายโมงคิดว่าร้านก๊วยเตี๋ยวคนคงซาแล้ว ถามพนักงานร้านกาแฟได้ความว่าร้านก๊วยเตี๋ยวร้านนี้อร่อยมากๆ เส้นทำเอง ลูกชิ้นทำเอง ออกรายการมาเกือบทุกรายการแล้ว  เดินไปนั่งกินคนก็ไม่เยอะแล้วจริงๆแหละ สั่งบะหมี่ต้มยำมากิน  อืม...กินคำแรกก็รู้เลยว่าเส้นเหนียวหนึบกินเพลินดี ลูกชิ้นก็ดี  แต่โดยรวมคิดว่าน่าจะอร่อยมากกว่านี้ซะอีก ชอบก๋วยเตี๋ยวไข่ราชบุรีมากกว่า เดินออกจากร้านมาจุดหมายต่อไปคือ ประตูเมืองและเสาหลักเมืองโดยเดินย้อนกลับทางเก่า  เจอฝนซะได้เลยได้แค่เดินผ่านๆ


 จากนั้นเดินกลับโรงแรมเดินเรื่อยๆเปื่อยๆไป รอเวลาเย็นวันนี้ตั้งใจจะกินที่โรงแรมแหละ เห้นราคาแล้วนั่งกินได้สบายๆจะดูวิวตอนเย็นด้วย  แวะซื้อขนมมานั่งกินเ่ล่นนั่งอ่านการ์ตูนฟังเพลงที่ระเบียงที่เสียอย่างเดียว ลมจากแอร์มันพัดใส่นี่ซิ ทำให้ร้อนได้ต้องเอาผ้าแขวนกัยไม้แขวนเสื้อมาบังลมหน่อย  อากาศไม่ร้อนจะเกินไปนั่งเพลินๆก็เย็นละ 5โมงกว่า เดินไปเค้าก็จัดโต๊ะไว้รอแล้วเพราะบอกไว้ว่าตอนเย็นจะมานั่ง ก็ได้โต๊ะเดิม หิวด้วยซิมื้อกลางวันกินก๋วยเตี๋ยวไปชามเดียวเอง  ทีนี้เลยสั่งมาเยอะ กับข้าวก็เต้าหู้ทรงเครื่อง ยำเนื้อย่าง ปลาทับทิมทอด(เป็นซีกเป็นตัวมันเยอะไป) ผัดข้าวโพดอ่อน ผัดผักรวม นั่งกินไปหน่อยก็จุกละกินไม่ไหวเลยขอยกกลับห้อง  โรงแรมนี้ไม่มีรูมเซอร์วิซต้องยกไปเอง แต่พนักงานก็มาขอช่วยถือนะแต่ไม่เป็นไรถือได้ เหลือกับข้าว3จาน4อย่าง รวบพวกผัดผักมารวมกัน แล้วยกกลับห้องรอกินอีกรอบ  แล้วเดินมาถ่ายรูปตอนกลางคืน(รอบที่เท่าไหร่เนี่ย)คราวนี้เอาขาตั้งกล้องมาด้วย






คืนนี้นอนเร็วหน่อยไม่ถึงเที่ยงคืนก็นอนแล้วตั้งใจจะถ่ายพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้า  ตามอ่านต่อได้ในโพสสุดท้ายครับ